หัวใจสูบฉีดแรงทุกครั้งที่ออกมาจากสถานี ฮาราจุกุ (Harajuku Station) เพราะซีนแรกที่เห็นคือ หัวถนนทาเคชิตะ (Takeshita Street) ที่มองลงไปจะเห็นแต่คนเต็มถนน อัดแน่นไปด้วยคนต่างที่ ต่างวัฒนธรรม รวมไปถึงการที่ได้เห็นคนญี่ปุ่นออกมาแสดงความเป็นตัวตนของเขาแบบอิสระอย่างเช่นการแต่งตัวแบบคอสเพลย์ เดินผ่านไปมาบนย่านนี้กันอย่างคึกคัก มีร้านค้าเก๋ๆ น่ารักๆ เต็มไปหมด ทำให้เราได้เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปบรรยากาศรอบๆ
ถ้าพูดถึงฮาราจุกุ เราก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเราชอบไปช้อปปิ้งที่นี่เพราะว่ามันมีครบทุกอย่างที่อยากได้ มีร้าน Nike Harajuku ที่ใหญ่มาก มีเสื้อผ้าผู้หญิงให้เลือกมากมาย มีห้างใหญ่อย่าง Tokyu Plaza และร้านค้าที่เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นเองก็สร้างสรรค์งานกันได้น่าสนใจมาก อีกอย่างที่สำคัญและเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เราอยากมาที่นี่คือร้าน Flagship Store ของแบรนด์ไฮเอนด์ต่างๆก็พร้อมใจกันแสดงศักยภาพของตนเองผ่านงานสถาปัตยกรรม งานออกแบบภายในที่ได้สถาปนิกระดับโลกมาโชว์ฝีมือกันอย่างเต็มที่ไม่แพ้ย่าน Ginza เลย
โอโมเตะซันโดะ (Omotesando)
โอโมเตะซันโดะ (Omotesando) เป็นถนนช้อปปิ้งในย่านฮาราจุกุ ถนนเส้นที่ได้ชื่อว่าเป็น Champs-Élysées ของญี่ปุ่นเลยทีเดียวเพราะมีอาคารสถาปัตยกรรมสวยๆมากมาย อย่างเช่น Omotesando Hils, Dior, Louis Vuitton, Tods, Hugo Boss เดินต่อมาเรื่อยๆก็จะไปเจอถนน อาโอยามะ (Aoyama) ที่เต็มไปด้วยแบรนด์ดีไซน์เนอร์ ร้านคาเฟ่เก๋ๆ และมีที่อยู่อาศัยบ้านเรือนของคนญี่ปุ่นที่ถือได้ว่าเป็นย่านที่อยู่อาศัยแบบหรูและแพงมากของโตเกียวเลย
เราใช้เวลาอยู่ที่ย่านนี้กันประมาณ 3-4 ชั่วโมงเพราะมีอะไรให้ดูเยอะ โดยเฉพาะความสวยงามของสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในของร้านค้าที่ให้แรงบันดาลใจมากมาย ครั้งนี้เราเลยตั้งใจว่าจะเก็บภาพบรรยากาศ สถานที่ และงานสถาปัตยกรรมที่เราชื่นชอบบวกกับเขียนบันทึกไว้เพื่อเตือนความจำว่าเราได้ไปเห็นอะไรมาบ้าง
1. โอโมเตะซันโดะ ฮิลล์ (Omotesando Hills)
Architect: Tadao Ando
ตึกไฮไลท์ของถนนเส้นนี้คือ Omotesando Hils ออกแบบโดยสถาปนิกญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกอย่าง Tadao Ando สถาปนิกที่เคยเป็นนักมวยมาก่อน เรืยกว่าเป็น self-taught architect คนหนึ่งที่มีงานเป็นเอกลักษณืโดยใช้คอนกรีตและกระจกเป็นวัสดุหลักในงานของเขา Omotesando Hills เป็นอาคารที่มีความสูงราวๆกับต้น Zelkova ที่อยู่ด้านริมถนน สร้างความกลมกลืนไปกับบริบทโดยรอบ ห้างนี้มีทั้งหมด 6 ชั้น มีร้านค้า ร้านอาหาร ด้านบนของตึกนี้จะเป็นอพาร์ทเม้นท์ที่อยู่อาศัย ส่วนของร้านค้ามีการเชื่อมต่อกันโดยมีพื้นที่ลาดเอียงเป็นหลัก ซึ่งเป็นจุดเด่นของอาคารที่ทำให้ทุกคนอยากจะมาถ่ายรูปกัน ร้านที่นี่ก็ได้ถูกคัดมาแล้ว เป็นแบรนด์ไฮเอนด์ระดับโลกทั้งนั้น และมีร้านของแบรนด์ญี่ปุ่นอย่าง Adidas Y3 (Yohji Yamamoto) และ Mihara Yasuhiro ก็อยู่ที่นี่เช่นกัน
2. Prada
Architect: Herzog & de Meuron
เราเป็นแฟนผลงานของ Herzog & de Meuron อยู่แล้วเลยทำให้อยากมาและตื่นเต้นกับตึกนี้เป็นพิเศษ ตึก Prada โดดเด่นด้วยพื้นผิววัสดุภายนอกอาคารที่เป็นกระจกทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนมาวางซ้อนกัน คล้ายๆกับที่เราใช้ต่อ glass block นั่นเอง ตัวผนังนี้มีหน้าที่เป็นโครงสร้างเพราะภายในตึกไม่มีเสาเลย ตอนกลางวันตัวอาคารจะสะท้อนกับท้องฟ้าได้สวยงาม และสามารถส่องสว่างในตอนกลางคืนโดยนำแสงจากภายในอาคารออกมาสู่ภายนอกได้อย่างน่าสนใจ ทำให้อาคารดูสวยและสะดุดตามาก
3. Tokyu Plaza
Architect: NAP Architects
ห้างที่โดดเด่นตรงแยกนี้คือ Tokyu Plaza ที่ได้มีอุโมงค์กระจกใหญ่เป็นทางเข้า กระจกชิ้นหลายขนาดที่นำมาต่อกัน สะท้อนคนที่เดินผ่านไปมาได้อย่างน่าสนใจ อาคารนี้ออกแบบโดย NAP Architects ถ้าใครชอบแนว futuristic หน่อยน่าจะแวะมาดู ด้านบนดาดฟ้าแอบมีสวนเล็กๆ ได้ทั้งวิวได้ทั้งบรรยากาศ ใครที่อยากจะมาถ่ายรูปแบบเก๋ๆก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน
4. Sunny Hills
Architect: Kengo Kuma & Associates
ไม่ได้มีดีแค่ขนมสำหรับร้าน Sunny Hills ร้านขายเค้กสัปปะรดที่โด่งดังสัญชาติไต้หวัน ได้มาสร้างผลงานที่สะดุดตามาก Sunny Hills ออกแบบโดย Kengo Kuma โดยคอนเซปต์หลักคือการสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นั่นก็คือเค้กสัปปะรด ตัวอาคารจึงออกมาในรูปทรงของตะกร้าไม้ไผ่ ที่ใช้วัสดุหลักเป็นไม้ นำไอเดียของการถักหรือสานเข้าหากันแบบสมัยก่อน โดยไม่ใช้ตะปูหรือกาวเลย ซึ่งเป็นแก่นแท้ของการสร้าง Japanese Wooden Architecture ผู้ออกแบบได้ตั้งใจจะสร้างความรู้สึกของป่าที่อยู่ท่ามกลางเมืองที่วุ่นวาย ภายในอาคารได้ออกแบบให้มาเล่นกับแสงธรรมชาติที่ผ่านเข้ามาในทุกช่วงเวลาของวัน สร้างความรู้สึกเหมือนการเดินในป่าที่มีต้นไม้อยู่ล้อมรอบ ด้วยบริบทของย่านมินามิ อาโอยามะส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัย ดังนั้นนักออกแบบเชื่อว่าการใช้วัสดุไม้จะสร้างความเป็นมิตรต่อบริบทโดยรอบที่ให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากกล่องคอนกรีตทั่วไป
5. Gyre
Architect: MVRDV
ช้อปปิ้งคอมเพลซ์ที่มีรูปทรงเหมือนกล่อง 5 กล่องที่ถูกวางซ้อนกันอยู่ Gyre แปลว่าการหมุนหรือเกลียว ซึ่งเป็นที่มาของการบิดของกล่องแต่ละชั้น สร้างการเกิดพื้นที่ภายนอกขึ้น จึงนำมาทำเป็น terrace ที่ถูกเชื่อมต่อโดยบันไดที่อยู่ภายนอกอาคาร ที่นี่ได้รวมร้านค้าแฟชั่นระดับโลก อย่างเช่น CHANEL, PLAY COMME des GARCONS, BVLGARI, DELVAUX รวมไปถึงร้านคาเฟ่ ร้านอาหารเก๋ๆ ร้านแกลเลอรี่อย่าง MOMA DESIGN STORE และ Good Design Store ก็อยู่ที่นี่ นักเดินทางสายอาร์ตไม่ควรพลาดจริงๆ
6. Christian Dior
Architect: SANAA (Kazuyo Sejima และ Ryue Nishizawa)
บรรยากาศโดยรวมที่ มินามิ อาโอยามะ
ย่านนี้คนไม่ค่อยพลุกพล่านเท่ากับแถวโอโมเตะซันโดะ แถวนี้เดินแบบไม่ต้องรีบมาก มีเวลาได้ถ่ายรูปเยอะหน่อย มีร้านคาเฟ่น่ารักๆ ให้เลือกเยอะมาก เราสังเกตุเห็นว่าแถวนี้ร้านตัดผมเยอะเช่นกัน ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม สถานที่โด่งดังของที่นี่คือ Aoyama Flower Market Tea House เป็นร้านคาเฟ่แสนสวยที่ซ่อนตัวอยู่กลางร้านขายดอกไม้ ร้านนี้เป็นที่นิยมของสาวๆ คราวนี้เราไม่มีโอกาสได้เข้าไปที่ร้านนี้ เพราะมีเวลาไม่มาก ย่านนี้แต่ละร้านอาจจะไม่ได้อยู่ติดกันเพราะโดยรอบจริงๆแล้วมันเป็นที่พักอาศัยทำให้เรารู้สึกว่าย่านนี้สงบ และความสวยงามก็คือความผสมผสานของร้านค้าที่อยู่แบบแอบๆ กลมกลืนไปกับบรรยากาศโดยรอบ ไม่ได้ทำให้การใช้พื้นที่แออัดกันจนเกินไป ใครที่อยากจะหลบหนีจากความวุ่นวายของฮาราจุกุซักพัก แนะนำให้เดินต่อมาจนถึง มินามิ อาโอยามะ คุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน
Enjoy tokyo, until next trip.
#sasivadeefilmstory
Photos were taken by:
Leica M6 /28elmaritasasph /Nikon 35Ti
Visit my official website: www.sasivadee.com
FB PAGE: https://goo.gl/kY1ZBw
A Visual Diary of Everyday Journey:
IG: sasivadee
Link: https://goo.gl/xtodz6