Amsterdam You’ve Been Missed
Amsterdam You’ve Been Missed บทความที่อยากจะพาไปเที่ยวเพราะความคิดถึงที่มีต่อเมืองอัมสเตอร์ดัม มันคือความผสมผสานของศิลปะ งานสถาปัตยกรรม บรรยากาศริมน้ำ ธรรมชาติที่อยู่รอบๆเมือง และการได้สูดอากาศบริสุทธิ์แบบเต็มปอดเพราะที่นี่เป็นเมืองที่มีคนขี่จักรยานประมาณ 880,000 คันต่อปีจากประชากร 799,400 คนที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวง นั่นหมายถึงการถูกวางผังเมืองที่เกื้อหนุนให้อัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองปลอดสารพิษ งานศิลปะหรือพิพิธภัณฑ์ที่นี่ก็ดีไม่แพ้ที่ไหนในโลก การได้มาเดินในบ้านของ Rembrandt จิตรกรชื่อดังของโลกคือไฮไลท์ของทริป รอบเมืองอัมสเตอร์ดัมจะมีพื้นที่สวนสาธารณะอยู่มากมาย เป็นพื้นที่ๆมีผู้คนมานั่งพักผ่อนกันในวันหยุดสุดสัปดาห์เป็นจำนวนมาก มีงานตลาดมือสองของคนในชุมชน เราได้เห็นครอบครัว คู่รักหรือเพื่อนฝูงออกมาทำกิจกรรมร่วมกันในพื้นที่ต่างๆที่ถูกสอดแทรกอยู่ภายในเมือง อัมสเตอร์ดัมแห่งนี้คือเมืองที่อยากมาแวะพักผ่อนทุกครั้งที่ได้โอกาสมาเที่ยวยุโรป
AMSTERDAM
อัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงไซส์เล็กของประเทศเนเธอร์แลนด์ มีประชากรอยู่ประมาณล้านกว่าคน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่คงจะคุ้นหูกันกับคำว่า Red Light District ย่านขายบริการที่กลายเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว หลายคนๆมาที่นี่จะต้องแวะไปชมบรรยากาศแถวนั้นหรือร้าน Coffeeshop ร้านที่ขายกัญชาเสรี อัมสเตอร์ดัมกลายเป็นเมืองที่โด่งดังทางด้านบันเทิงคล้ายๆกับเมืองไทยของเรา การเดินทางมาเมืองอัมสเตอร์ดัมครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่สามแล้ว หลังจากที่ได้มาเยือนที่นี่ สำหรับเรามันคือเมืองเล็กๆสงบสุขและสวยงาม เป็นเมืองที่มีอาหารอร่อย กาแฟรสชาติดี มีกลิ่นกัญชาฟุ้งตามถนนขณะเดินเล่น พิพิธภัณฑ์ศิลปะมีคุณภาพระดับต้นๆของโลกมีหลายแห่งให้เลือกชม โดยเฉพาะ Museum Square จุดศูนย์กลางที่มีพิพิธภัณฑ์ศิลปะหลายแห่งอยู่รายล้อมสวนสาธารณะ
ก่อนอื่นเลย เราจะไปเช็คอินเข้าบ้านที่เราได้จองผ่าน www.airbnb.com โดยเราและสามีจะเลือกที่พักโดยต้องเป็นห้องที่ตกแต่งแบบโมเดริ์นและราคาอยู่ในงบ โดยส่วนใหญ่เวลาไปเที่ยวยุโรป เรามักจะเจอห้องพักสวยๆ เพราะเราสองคนถือว่ามาพักผ่อนทั้งที เลยอยากจะชมงานดีไซน์ดีๆไปด้วยเลยค่ะ
ถ้าใครชอบห้องแบบนี้ ตามลิงค์นี้ไปได้เลย AIRBNB
Art and the City
Museum Square (Museumplein) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองและตรงนี้คือสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยพิพิธภัณฑ์ศิลปะชื่อดังไว้มากมายเช่น Stedelijk Museum, Rijksmuseum, Van Goh Museum, Moco Museum รวมไปถึงป้าย IAMSTERDAM ที่เป็นแลนมาร์กของนักท่องเที่ยวก็อยู่ที่นี่เช่นกัน วันนี้จะเริ่มเดินเล่นรอบๆ Museum Square ก่อนแล้วค่อยเลาะไปตามเมือง วางแผนไว้ว่าวันนี้เราจะเข้าไปดู Stedelijk Museum ก่อนเลย
Stedelijk Museum
The Stedelijk Museum ถูกสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1895 ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยและมีแสดงงานศิลปะและการออกแบบแนวโมเดริ์นที่ใหญ่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์ อากคารเดิมถูกปรับปรุงใหม่โดย Benthem Crouwel Architects และได้ขยายออกมาเพิ่มเติมคือส่วนที่เป็นปีกใหญ่ๆสีขาว หรือที่เรียกกันว่าอ่างอาบน้ำยักษ์ ตั้งอยู่โดดเด่นมาก หนึ่งในงานสถาปัตยกรรมโมเดริ์นที่น่าสนใจของเมือง นอกจากความสะดุดตาของอาคารแล้ว ที่นี่ก็โดดเด่นไปด้วยงานแสดงของศิลปินอาทิเช่น Piet Mondrian, Gerrit Rietveld, Roy Lichtenstein, Yayoi Kusama, Charley Toorop และอีกหลายๆท่าน เราใช้เวลาเดินเล่นในนี้ร่วมสองชั่วโมงแบบไม่ได้ดูละเอียดทั้งหมด มีงานมาสเตอร์พีสมากมายและสามารถเดินดูได้ทั้งวัน
ออกจาก Stedelijk Museum ก็จะเจอ The Van Gogh Museum อยู่ใกล้ๆ
The Van Gogh Museum
พิพิธภัณฑ์ The Van Gogh Museum เปิดครั้งแรกปี ค.ศ. 1973 อาคารแรกเริ่มออกแบบโดย Gerrit Rietveld เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีงานศิลปะของ Vincent van Gogh มากที่สุดซึ่งมีภาพงานศิลปะทั้งหมดประมาณ 700 ชิ้นและจดหมายที่เป็นออริจินัลร่วม 700 ฉบับ จึงทำให้พิพิธภัณฑ์ของ Vincent van Gogh โด่งดังไปทั่วโลกและมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาดูงานเป็นอันดับสองรองจาก The Rijksmuseum ภาพวาดอันโด่งดังอย่าง Sunflowers ก็จัดแสดงอยู่ที่นี่ ในปี 1999 พิพิธภัณฑ์ The Van Gogh Museum ได้เพิ่มพื้นที่สำหรับการจัดนิทรรศการหมุนเวียน ซึ่งอาคารในส่วนนี้ออกแแบบโดย Kisho Kurokawa Architect & Associates นอกจากงานของ Van Gogh แล้ว เรายังได้เห็นงานของเพื่อนๆยุคเดียวกันอย่าง Munch, Gauguin, Malevich มาให้เราได้ชมกัน
The Rijksmuseum
หลังจากเพลิดเพลินกับ The Van Gogh Museum เราเดินไปอีกหน่อยก็จะเจอ The Rijksmuseum พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติของประเทศเนเธอร์แลนด์ที่มีงานแสดงศิลปะเชิงประวัติศาสตร์ของชาวดัตช์ รวมถึงงานศิลปะอีกหลากหลายแขนง ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีงานศิลปะอยู่ร่วมๆ หนึ่งล้านชิ้นภายในสถานที่แห่งนี้ The Rijksmuseum ถือว่ามีงานเกี่ยวกับศิลปินชาวดัตช์คนสำคัญมากที่สุดด้วย ภาพที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่คือ The Night Watch โดยแร็มบรันต์ (Rembrandt) จิตรกรชื่อดังของโลก ผู้คนจากทุกมุมโลกเดินทางมาชมงานของแร็มบรันต์ตลอดปี ซึ่งปี 2019 จะเป็นปีครบรอบ 350 ปีสำหรับการจากไปของศิลปินผู้นี้ โดยทางพิพิธภัณฑ์ Rijksmuseum ได้ประกาศแล้วว่าจะมีงาน Exhibition พิเศษทั้งหมด 2 งานด้วยกันเพื่อรำลึกถึงความสำคัญของงานศิลปะที่ท่านได้มีต่อรุ่นหลังมายาวนานแค่ไหน งานที่เป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินอีกหลายคน โดยงานนิทรรศการจะมีงานหลายชิ้นสำคัญของแร็มบรันต์ที่หาดูได้ยาก ซึ่งจะจัดขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2019 จะน่าสนใจแค่ไหน ติดตามได้ที่ www.rijksmuseum.nl ได้เลย
Rembrandt House Museum
ใครชอบงานของแร็มบรันต์ก็คงไม่พลาดกับการหาเวลามาแวะชม Rembrandt House Museum บ้านที่แร็มบรันต์ใช้ทำงานศิลปะอย่างจริงจังร่วม 20 ปี พิพิธภัณฑ์ที่นี่จะเป็นบ้านเลยทำให้การเดินชมดูอบอุ่นกว่าพิพิธภัณฑ์ใหญ่ๆ เราได้เห็นบรรยากาศ พื้นที่การทำงานในสตูของศิลปินเองแบบใกล้ชิด มีงานปั้น งานแกะสลักที่ดูแล้วเพลินมาก เรายังเห็นอุปกรณ์ต่างๆที่แร็มบรันต์ใช้ในการทำงานศิลปะของเขา ที่นี่เปรียบเสมือนจิตวิญญาณของศิลปิน หากคุณได้เข้ามาเยี่ยมชมที่นี่ คุณจะต้องหลงรักเสน่ห์ของบ้านและความขลังของทุกห้องที่เราค่อยๆเดินไปสัมผัส ที่นี่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบงานของ Dutch Golden Age เพราะงานของแร็มบรันต์คือมาสเตอร์พีส อาคารนี้คือบ้านและที่ทำงาน ถูกสร้างในปีศตวรรษที่ 17 ซึ่งในช่วงเวลานี้นั้น พื้นที่แถวนี้คือพื้นที่สมัยใหม่เป็นเหมือนใจกลางเมืองที่กำลังราคาขึ้นและนักธุรกิจหลายคนมาซื้อบ้านในบริเวณนี้ เหตุนี้เองทำให้ทุกคนเชื่อว่าแร็มบรันต์คือศิลปินมือทองและจิตรกรผู้ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของโลก
Architectura & Natura
ที่นี่อาจจะไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ศิลปะแต่อย่างใด Architectura & Natura คือร้านหนังสือที่คัดเลือกมาหลักๆเฉพาะเกี่ยวกับสถาปัตยกรรม หนังสือเกี่ยวกับถ่ายภาพที่น่าสนใจมากๆและหาดูได้ยาก รวมไปถึงเรื่องราวของสวนและประวัติศาสตร์ธรรมชาติ ร้านนี้เปิดมาร่วมๆ 70 ปีแล้วและถือว่าเป็นร้านที่มีชื่อเสียงมายาวนานของยุโรปกันเลย ร้านนี้อาจจะดูเล็กแต่ว่าข้างในอัดแน่นไปด้วยหนังสือดีมีคุณภาพ หากคุณมีเวลาสักหน่อย อยากจะชวนมาแวะที่ร้านนี้ เพราะว่าที่นี่ได้คัดหนังสือดีๆ จากทั่วโลกเอาไว้ให้เราแล้ว นักเดินทางสายอาร์ตไม่ควรพลาดจริงๆ
Architecture and Grachtengordel (Canal Ring)
เมืองอัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองที่เที่ยวง่ายมากเพราะว่าขนาดเล็กและทุกถนนก็ถูกเชื่อมต่อกันได้เป็นอย่างดี คูคลองหลักๆทั้ง 4 สาย Herengracht, Keizersgracht, Singel และ Prinsengracht ที่ถูกเชื่อมต่อด้วยถนน กลายเป็นเสน่ห์ที่หาไม่ได้จากที่อื่น เพราะที่นี่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยอาคารบ้านเรือนที่เราเคยเห็นเรียงรายกันอยู่ และที่คนส่วนใหญ่จะเกิดคำถามว่า ทำไมบ้านเรือนที่นี่ถึงหน้าแคบ ซึ่งสมัยก่อนด้านหน้าอยู่แค่ประมาณ 2-3เมตรเท่านั้น เหตุผลหลักๆที่บ้านของเมืองอัมสเตอร์ดัมเป็นแบบนี้เพราะเนื่องจากในสมัยศตวรรษที่ 15 กฏหมายการเสียภาษีบ้านขึ้นอยู่กับความกว้างของหน้าบ้าน ดังนั้นบ้านในสมัยเก่าก็จะถูกออกแบบมาให้มีหน้าแคบ แต่จะมีอาคารที่ยาวลึกแทน ในช่วงศตวรรษที่ 17 เป็นช่วงรุ่งเรืองของเนเธอร์แลนด์หรือที่เราได้ยินบ่อยๆว่า The Dutch Golden Age หน้าบ้านจึงมีความกว้างขึ้นจากสมัยก่อน และความวิจิตรของการตกแต่งหลังคาก็จะสวยและละเอียดขึ้นกว่าเดิม ด้านหน้าของบ้านส่วนใหญ่จะเอาห้องนั่งเล่นมาอยู่ด้านหน้าเพื่อได้รับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ เขาเชื่อกันว่า คนเนเธอร์แลนด์รักการอ่านเป็นชีวิตจิตใจ ดังนั้น การที่บ้านมีหน้าต่างบานใหญ่และเรามักมองทะลุเข้าไปข้างในได้เลยเพราะว่าเขาต้องการแสงธรรมชาติในการอ่านหนังสือให้ได้มากที่สุด
Grachtengordel ถูกยกให้เป็น UNESCO World Heritage Site ในปี 2010 เพราะเป็นสัญลักษณ์ที่เด่นที่สุดของเนเธอร์แลนด์รวมไปถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ ความเป็นอยู่ของชาวดัตช์ที่มีมูลค่าเชิงความรู้ไว้มากมาย Canal Ring อายุประมาณ 400 กว่าปีแล้ว ซึ่งทาง UNESCO World Heritage Site ถือว่าที่นี่เป็นตัวอย่างของงานสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม บวกกับการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ลงตัวเพื่อรับกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป การออกแบบผังเมืองที่ดีเยี่ยมนั่นหมายถึงทัศนียภาพที่สวยงามถูกรักษาจากรุ่นสู่รุ่นได้ประสบความสำเร็จมากๆ งานสถาปัตกรรมย่านนี้ถูกสร้างช่วงศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมา เป็นยุครุ่งเรืองที่สุดเลยมีอาคารที่ถูกสร้างขึ้นได้สวยงามและสมบูรณ์ รวมไปถึงย่านนี้มีร้านค้า ร้านคาเฟ่เก๋ๆ รายล้อมตามคลอง ผู้คนใช้เวลาเที่ยวไปกับการนั่งเรือจิบไวน์ไปตาม Canal Ring เพื่อให้เข้าถึงวิถีชีวิตของคนชาวดัตช์ให้ได้มากที่สุด ย่าน Grachtengordel คือย่านที่ถูกผสมผสานของที่อยู่อาศัยราคาสูง ร้านค้าใหม่และเก่า รวมไปถึงร้านอาหาร Michelin Star หนึ่งในร้านที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของยุโรป นอกเหนือจากนี้ ย่านนี้ยังเต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจอย่าง Anne Frank House เจ้าของผลงานเขียน “Diary of a Young Girl” ไดอารี่เกี่ยวกับชีวิตการหลบซ่อนจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Anne Frank เอง หากใครยังไม่รู้ว่าจะไปเริ่มเดินเที่ยวเมืองนี้จากตรงไหน Grachtengordel จะเป็นจุดเริ่มต้นทริปที่ดีของคุณแน่นอน
All Photos with #LeicaQ
FB PAGE: https://goo.gl/kY1ZBw
See what’s up with me at IG: sasivadee
Link: https://goo.gl/xtodz6