Don’t Miss The Book Street

“Jimbocho” โตเกียวบุ๊คทาวน์ ย่านเล็กๆที่คนรักหนังสือต้องมา

“JIMBOCHO”

โตเกียวบุ๊คทาวน์ ย่านเล็กๆที่คนรักหนังสือต้องมา

5th May 2017

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปแล้ว ไฟลท์กลับของเราคือหกโมงเย็นที่สนามบิน Narita
เราสองคนวางแผนไว้ว่าจะไปที่สนามบินโดยรถบัส เนื่องจากสะดวกสบายกว่า เพราะเราพักอยู่ใกล้กับที่ Bus Station
เราสองคนมีเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งที่จะสามารถไปท่องเมืองได้อีกสักนิดหนึ่ง เราตกลงกันว่าจะกลับไปที่ Daikanyama T Site อีกรอบเพราะรู้สึกว่ายังไม่ได้ใช้เวลาอยู่ที่นั่นเลย และยังไม่ได้ทานขนมในร้านด้านหลังตามที่ตั้งใจไว้ เราใช้เวลาเดินทางไปที่นั่นจากสถานี Suitengumae ประมาณ 35 นาทีตามที่ google map บอก ระหว่างทางที่เรานั่งอยู่ในรถไฟใต้ดินนั้น เราได้ยินเสียงประกาศว่าสถานีหน้าคือ Jimbocho  ซึ่งห่างจากสถานีที่เรามาคือ Suitengumae Station เพียงแค่ 3 ป้ายเท่านั้น เราสองคนรีบปรึกษากันทันทีว่า หรือเราจะเปลี่ยนแผนแล้วแวะดู Jimbocho กันเลยเพราะเรารู้กันมาว่า ย่านนี้เป็นย่านหนังสือมือสองและร้านหนังสือมากมาย เราและสามีเป็นคนชอบอ่านหนังสือทั้งคู่ เลยมีความสนใจในย่านนี้เป็นพิเศษ ในที่สุดเราก็ตัดสินใจว่าลงสถานี Jimbocho เลยดีกว่า
เรามาถึงที่นี่ประมาณเที่ยงครึ่ง ซึ่งแปลว่าเรามีเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนที่จะต้องนั่งรถไฟกลับไปที่ Bus Station
เราเริ่มจากทานอาหารร้านหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากสถานี ร้านดูธรรมดา แต่สะอาดและมีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ และอาหารก็รสชาติดีมากๆเลยคะ ร้านนี้ไปเวลาเที่ยงกว่าๆเลยเจอค่อนข้างแน่นคะ
จิมโบโชมีถนนหนึ่งที่เขาเรียกว่า Tokyo’s Book Town เป็นถนนที่ไม่ได้ยาวมาก มี  2  ซอยหลักๆที่เดินถึงกัน ในถนนเล็กๆนี้ มีร้านหนังสือมือสองมากมาย ส่วนใหญ่เป็นหนังสือเก่า แมกกาซีนเก่าภาษาญี่ปุ่น บางร้านมีหนังสื้อภาษาอังกฤษและแมกกาซีนภาษาอังกฤษที่น่าสนใจ บางร้านขายรูปถ่ายเก่าๆ โปสการ์ดเก่าๆ ที่น่าสะสมมากของศิลปินญี่ป่นและต่างชาติปะปนกันไป ส่วนที่จะเป็นของใหม่คือ ร้านกาแฟ เก๋ๆ ที่เป็นแบบ book cafe ที่มีร้านขายหนังสือ ร้านกาแฟและพื้นที่สำหรับคนรักการอ่าน เราได้มีโอกาสเดินดูหลายร้านเลย และเรามี 4 ร้านหนังสือที่ประทับใจที่อยากมาแนะนำให้รู้จักคะ
  1. ร้าน Magnif
ในร้านนี้มีหนังสือแมกกาซีนแฟชั่นทั้งญึ่ปุ่นและฝรั่งมากมายที่เป็นของเก่า ที่นี่น่าจะมีหนังสือภาษาอังกฤษเยอะกว่าร้านอื่นๆ เราเจอแมกกาซีน Seventeen ตั้งแต่ยุค 1976 และหนังสือแมกกาซีนหัวนอกอย่างเช่น Vogue ก็อายุประมาณเดียวกัน ทุกเล่มถูกการปัดกวาดเช็ดถูให้สะอาดและห่อพลาสติกไว้อย่างดี ร้าน Matif มีแต่หนังสือดีๆ ที่คัดเลือกมาแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับแฟชั่น ศิลปะ งานดีไซน์ และงานตกแต่งภายใน หนังสือที่เกี่ยวข้องกับยุคสำคัญต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น หนังสือเรื่อง King’s Road เป็นเรื่องราวที่บอกเล่าเกี่ยวกับบุคคลสำคัญหลายคน และเหตุการณ์ต่างๆที่น่าจดจำในยุคของฮิปปี้ ที่เกิดขึ้นบนถนนตำนานอย่าง King’s Road
  1. ร้าน  Photographs
ร้านที่ไม่แน่ใจว่าชื่อร้านอะไร เพราะเห็นแต่คำว่า Photographs เลยคิดว่ามันน่าจะเป็นชื่อร้าน ร้านนี้จะเน้นหนักไปทางด้านถ่ายภาพและแฟชั่นแมกกาซีน จะมีหนังสือ photobook ของช่างภาพคนญี่ปุ่นชื่อดัง รวมไปถึงช่างภาพทั่วโลกที่มีงานภาพถ่ายที่น่าสนใจได้ถูกคัดมาอยู่ในร้านนี้แล้วร้านนี้เหมาะกับนักสะสมและทุกคนที่ชอบการถ่ายภาพ ลองมาเดินเล่นที่นี่ดูคะ
  1.  ร้านเก่า ( ชื่อญี่ปุ่น)
ร้านนี้จะเป็นหนังสือญี่ปุ่นโบราณเก่าๆ เท่าที่เข้าใจคือเป็นหนังสือประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น จะเน้นหนักไปทางด้านวัฒนธรรมหน่อย ที่น่าสนใจคือ ร้านนี้มีขายภาพวาดสวยๆที่เป็นลายเส้นแบบญี่ปุ่นขายด้วย ราคาก็มีตั้งแต่ไม่ได้แพงมากจนถึงราคาสูงเลยทีเดียว หากใครอยากจะหาภาพสวยๆที่ได้ความเป็นญี่ปุ่นไปตกแต่งบ้าน เราแนะนำร้านนี้น่าจะมีอะไรให้เลือกดูคะ
  1. ร้าน Paper Back Cafe
ร้านนี้ขายหนังสือใหม่ อารมณ์เหมือน Kinokuniya แต่มีความเก๋คือ เป็นร้านหนังสือที่มีขายกาแฟและเมนูทานเล่น มีที่สำหรับให้คนมาอ่านหนังสือหรือนั่งทำงาน ที่นี่บรรยากาศเงียบมากๆ เหมือนเข้ามานั่งอ่านกันแบบจริงจัง ไม่มีใครคุยกัน

ประวัติของจิมโบโชฉบับย่อ 

หล้งจากที่ย่านจิมโบโชเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่อย่างรุนแรงในปี 1913 มีศาสตราจารย์ท่านหนึ่งได้ก่อตั้งสำนักพิมพ์เล็กๆขึ้นที่นี่ ซึ่งตอนนี้
เป็นหนึ่งในสำนักพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ชื่อว่า Iwanami Shoten จากนั้นก็ทยอยมีสำนักพิมพ์เปิดตัวขึ้นตามกันมา ทำให้ย่านนี้กลับมาคึกคักกันอีกที จิมโบโชยังเป็นที่ตั้งของตัวแทนจำหน่ายหนังสือ ชมรมอนุรักษ์วรรณกรรม ย่านจิมโบโชเริ่มมีชื่อเสียงและเป็นย่านที่รวมเหล่าปัญญาชนมาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ทุกวันนี้ย่านจิมโบโช ย่านหนังสือมือสองที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นที่รวมตัวของคนที่ชอบอ่านหนังสือ มีการจัดโต้วาทีกัน และกิจกรรมต่างๆของคนที่รักและสะสมหนังสือ โดยใช้สถานที่ร้านกาแฟต่างๆ เป็นที่พบปะ จึงไม่แปลกเลยว่าที่บางทีเราจะเห็นคนเยอะๆมารวมตัวกันในวันหยุด
ขอบคุณการเดินทาง ขอบคุณเพื่อนร่วมทาง (สามี) ที่ทำให้เราได้เรียนรู้และพบกับสิ่งใหม่ๆ ตลอดมา แม้สถานที่บางที่ไม่ได้ถูกวางแผนมาตั้งแต่ต้น แต่สิ่งหนึ่งที่เราเชื่อมาตลอดคือ สัญชาตญาณของเราทุกคนมักนำพาสิ่งที่ใช่มาให้เราเสมอ เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องเปิดแผนที่ดู ไม่ต้องหาจากหนังสือเล่มไหนอ่าน แค่ใช้สติฟังเสียงข้างในของเรานำทาง การเดินทางเป็นการฝึกฝนใช้สัญชาตญาณของเราให้ได้แม่นยำขึ้น และสิ่งสำคัญที่ไม่แพ้กันคือ เพื่อนร่วมทาง เพราะประสบการณ์ต่างๆ จะมีคุณค่ามากขึ้นเวลาเราได้แชร์กับใครสักคน ที่พร้อมจะจับมือไปข้างหน้าด้วยกัน
#sasivadeefilmstory
Photos were taken by:
Leica M6 /28elmaritasasph
Visit my official website: www.sasivadee.com
See what’s up with me at my IG: sasivadee
Leave a Reply
You May Also Like
Read More

Ayutthaya, A Sacred City

11 Places in Ayutthaya เที่ยวเมืองเก่าชมงานสถาปัตยกรรมไทย ไหว้พระทำบุญ แวะคาเฟ่ขนมไทยสไตล์โมเดริ์น ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
Read More