Nakameguro
&
Daikanyama
มาโตเกียวครั้งนี้ เราและสามีตั้งใจที่จะหาถนนและย่านใหม่ๆที่ไม่เคยไป เราเชื่อว่า ทุกเมืองย่อมมีแหล่งหรือพื้นที่เล็กๆที่อาจจะไม่ใด้เป็นย่านหลักสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ความน่าค้นหาและมีเสน่ห์ไม่แพ้ย่านใหญ่ๆ และที่สำคัญ ย่านเหล่านี้ที่ไม่ได้มีคนหนาแน่นจนเกินไป ทำให้เราไม่ต้องรีบ และได้มีเวลาสัมผัสถึงวัฒนธรรมหรือความเป็นท้องถิ่นได้มากขึ้น เราได้มีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ Ok Go Tokyo 2 โดยสำนักพิมพ์ซันเดย์ อาฟเตอร์นูน ผู้เขียนเป็นคนไทยที่อาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่นมาร่วม 10 ปีแล้ว เขาแนะนำย่าน Nakameguro และ Daikanyama ที่สามารถเดินถึงกันได้ เราสองคนจึงไม่รีรอ วางแผนที่จะไปเดินสำรวจย่านนี้ให้ได้
ลงจากสถานีรถไฟที่ Nakameguro Station ประมาณบ่ายโมง ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ Nakameguro เต็มไปด้วยร้านค้าน่ารักๆ แบบสไตล์คนญี่ปุ่น เราได้แรงบันดาลใจหลายๆอย่างด้านการออกแบบ ร้านที่นี่จะขายของแตกต่างกัน และมีขนาดไม่ได้ใหญ่มาก ทำให้การบริการที่นี่อบอุ่น บวกกับคนไม่ได้เยอะมาก ถนนไม่ได้แออัดไปด้วยนักท่องเที่ยวแบบที่เราคุ้นเคยกันอย่าง Harajuku หรือ Shibuya ที่นี่ร้านค้าและร้าน cafe รายเรียงสลับกันไปตามถนนที่เดิน เรียกได้ว่า มีอะไรให้ชิมได้ตลอด ไม่ต้องกลัวหิว
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ทำให้เราได้เห็นบรรยากาศของครอบครัว ผู้คนออกมาพบปะกันในวันหยุด มีเด็กเล็กมากมาย พ่อแม่ออกมารวมตัวกัน พาลูกออกมาเดินเล่น นั่งรับประทานอาหารกันอย่างน่ารัก เราเดินลัดเลาะไปตามถนนหลักๆ มีเข้าไปในซอยเล็กๆบ้าง ก็มีร้านน่ารักแอบซ่อนอยู่ เพราะความที่คนในย่านนี้ไม่ได้เยอะมาก ทำให้เราได้มีเวลากับร้านต่างๆมากขึ้น ถนนหนทางก็ไม่ได้โดนเร่งรีบมากนัก เราได้สังเกตุว่าอาคารบ้านเรือนแถวนี้ค่อนข้างสวย มีสถาปัตยกรรมแบบโมเดริ์นอยู่ตลอดทาง ต้นไม้ริมทางก็ดูร่มรื่น กลมกลืนกับเมืองได้เป็นอย่างดี เราว่าย่านนี้เหมาะกับครอบครัวมากๆ เราเดินจาก Nakameguro ไปยัง Daikanyama ต่อ ซึ่งไม่ได้ไกลเลย
Daikanyama
ย่านนี้จะดูคึกคักกว่า Nakameguro อาจจะเป็นเพราะว่าย่านนี้เต็มไปด้วยร้านชื่อดังมากมาย ที่นี่เรารู้สึกว่าเราเจออาหารฝรั่งเยอะมาก เอาเป็นว่า เราอยากทานราเมนธรรมดาที่นี่ สรุปว่าหานานมาก เพราะส่วนใหญ่จะเป็นอาหารแบบตะวันตก และเน้นหนักไปทางขนมมากกว่า เราสองคนเดินไปจนเจอร้านหนึ่งไม่รู้ว่าชื่ออะไรเพราะมีแต่ภาษาญี่ปุ่น ดีนะ ที่เมนูยังมีภาษาอังกฤษ ดูเหมือนว่าที่นี่จะดังเรื่อง Bubble Milk Tea เพราะทุกคนสั่งหมด เราเลยไม่รอช้า เข้าไปในร้านแบบมีความหวัง
ถ้าคุณเป็นคนชื่นชอบการออกแบบอาคาร สถาปัตยกรรมและงานดีไซน์เป็นหลัก เราเชื่อว่าคุณจะตกหลุมรักย่านนี้แน่ๆ เราสังเกตุเห็นว่า ถนนนี้เต็มไปด้วยอาคารที่มีรูปทรงน่าสนใจ และการตกแต่งภายในร้านนั้นได้ผ่านการออกแบบ และใส่ใจมาอย่างดี บวกกับความที่ไม่ได้หนาแน่นจากนักท่องเที่ยวเกินไป เราสามารถเก็บภาพสวยๆ ของเมืองได้อย่างสนุกสนาน
LOG ROAD
เดินมาซักพักก็จะเจอเวิ้งหนึ่งที่มีชื่อว่า Log Road ที่นี่มีร้าน cafe ร้านค้าเสื้อผ้าและสวนหย่อมตลอดทาง เป็นที่เหมาะกับหนุ่มสาวมาออกเดทกัน หรือจะมาแบบครอบครัวก็ดี เพราะมีที่วิ่งให้กับลูกๆ และมีอาหารทานเล่น ขนมโดนัทน่ารับประทานมากมาย
Daikanyama T Site
สถานที่ไฮไลท์ที่อยากจะแนะนำคือ Daikanyama T Site ร้านหนังสือขนาดใหญ่ที่มีโซนร้านกาแฟภายใน และขายของดีไซน์ บริเวณด้านหลังมีร้านอาหาร มีสวนขนาดย่อม มีพื้นที่สำหรับจัดอีเว้นท์ที่เปิดให้ร้านดีๆมาออกร้านในวันหยุด อาคารนี้ได้ Klein Dytham มาออกแบบซึ่งได้รับรางวัล World Architecture Festival ในปี 2012 ในหมวด shopping center จุดเด่นของอาคารนี้คือ ผนังที่มีพื้นผิวเป็นรูปตัวโลโก้ T ซึ่งมากจากตัวย่อของ Tsutaya วางสลับกันไปมาเป็นแพทเทิร์นที่ดูลงตัว
หากคุณตั้งใจ่าจะไปโตเกียวแล้ว อยากจะหาเวลาสักครึ่งวัน ที่จะหลบหนีจากความวุ่นวาย แต่ยังคงทันสมัยและยังชอปปิ้งได้ เราว่าสองย่านนี้น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีเลยหละ จากที่เราเป็นคนชอบโตเกียวอยู่แล้ว ทำให้เราชอบมากขึ้นไปอีก เพราะว่ามันทำให้เรารู้สึกว่า เมืองนี้มีความน่าสนใจในหลายๆย่าน ทำให้เราไม่เบื่อที่จะต้องไปในย่านเดิมๆ เพราะความเจริญของวัฒนธรรมที่นี่ เดินทางไปถึงทุกแหล่งของเมืองจริงๆ ไม่ใช่แค่ย่านหลักๆ ที่ตั้งใจขายนักท่องเที่ยว ความใส่ใจในบริการ ความซื่อตรง ความสะอาดสะอ้านของเขา เป็นพื้นฐานของคนที่นี่อยู่แล้ว เอาเป็นว่าถนนนี้จะเป็นที่ๆเราจะกลับมาอีกครั้งที่ได้มีโอกาสมาโตเกียวอีก
การเดินทาง
นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Hibiya Line ลงสถานี Naka-Meguro
Journey Memo : Japan Trip 2017
#sasivadeefilmstory