Architecture in Kuala Lumpur
“Malaysian Ornamentation”
[/vc_column_text][vc_empty_space][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width=”2/3″][vc_column_text]ในระยะเวลารวมๆแล้วสามวัน เราได้มีเวลาไปเดินเล่นตามย่านต่างๆ ในเมืองกัวลาลัมเปอร์ สิ่งที่เห็นในทุกที่ๆไป คือบรรยากาศของยุโรป ผสมผสานอยู่ในงานสถาปัตยกรรมยุคใหม่ของมาเลเซีย รวมไปถึงอาคารริมถนนทั่วไปที่ได้ทิ้งรายละเอียดต่างๆไว้ให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้เพลินไปกับทัศนียภาพของเมืองที่เต็มไปด้วย Colonial Architecture เหตุผลหลักคงหนีไปพ้น เมื่อครั้งมาเลเซียเคยถูกเป็นเมืองขึ้นของประเทศอังกฤษเมื่อศตวรรษที่ 18 ก่อนจะประกาศอิสรภาพในปี 1957 สมัยก่อนนั้นระหว่างที่มาเลเซียตกเป็นเมืองขึ้นมายาวนาน อังกฤษได้นำคนงานจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ยูนนาน มาเป็นคนงานทำเหมือง ทำแร่ ส่วนคนงานจากอินเดียจะได้ทำงานเกี่ยวกับการสร้างคมนาคมต่างๆอย่างเข่น รางรถไฟและถนน ดังนั้นพื้นที่ของประเทศมาเลเซียจึงมีประชากรที่ผสมผสานกันอยู่ ผู้คนส่วนใหญ่คือ Malaysian, Chinese Malaysian, Indian Malaysian, ตามลำดับ [/vc_column_text][/vc_column][vc_column width=”1/3″][vc_empty_space][vc_single_image image=”2098″ img_size=”full”][vc_empty_space][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]รายละเอียดของงานสถาปัตยกรรม (Ornamentation) มีการปรับเปลี่ยนไปตามเวลาและมีวิวัฒนาการตั้งแต่ในอดีตตั้งแต่ช่วง Early Civilization การตกแต่งประดับประดาคือการสร้างเพื่อเทพเจ้า และพระราชา ช่วงยุคกลาง (Middle Ages) การตกแต่งจะถูกสร้างขึ้นได้เห็นมากมายในโบสถ์เพื่อสื่อสารคำสอนของศาสนาเอง ช่วงยุคเฟื้องฟู (Renaissance) การตกแต่งจะเห็นมากที่พระราชวังและหลุมผังศพ มันได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของคนมีฐานะหรือวงศ์ตระกูลที่มีชื่อเสียงอย่างราชวงศ์เป็นต้น สุดทัายในยุคโมเดริ์น (Modernism) การประดับตกแต่งถือว่าเป็นสิ่งไม่จำเป็นอีกต่อไป เพราะเป็นเพียงองค์ประกอบและการตกแต่งเท่านั้น [/vc_column_text][vc_empty_space][vc_single_image image=”2104″ img_size=”full”][vc_single_image image=”2176″ img_size=”full”][vc_column_text]งานสถาปัตยกรรมในมาเลเซียแตกต่างกันไปตามบริบทหลักๆคือ วัฒนธรรม สังคม และการเมือง ในช่วงศตวรรษที่ 16 – 19 ได้รับอิทธิพลหลักจากยุโรปที่เราเรียกกันว่า Paddianism Architecture ซึ่งจะเห็นได้บ่อยกับอาคารบ้านพักอาศัยของคนเชื้อสายจีนหรืออาคารแถบ Central Market ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญสำหรับการค้าขายเพราะเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำ Gombak และ Klang เป็นงานออกแบบที่นำเอาอิทธิพลจากยุโรปแบบคลาสสิคมาปรับใช้ อีกหนึ่งสไตล์คือ Raj Style มีอิทธิพลมาจากแขกมัวร์ หรือที่เราคุ้นตากับสถาปัตยกรรมแบบอินเดีย องค์ประกอบหลักคือโดมอันโดดเด่นและซุ้มประตูทรงโค้งต่างๆที่สามารถเห็นได้จากจตุรัสเมอร์เดก้า หากคุณได้เดินเล่นไปทั่วเมืองกัวลาลัมเปอร์ จะเห็นความผสมผสานของสองสไตล์หลักๆ ที่ทำให้เมืองนี้มีเสน่ห์ไม่เหมือนที่ไหน งานสถาปัตยกรรมมีรายละเอียดสวยงามมาก แม้จะเป็นงานในยุคโมเดริ์นเรายังเห็นการนำเอาสัญลักษณ์ของศาสนามาปรับใช้หรือการสร้างแพทเทริ์นต่างๆบนผนัง รายละเอียดของงานสถาปัตยกรรมได้ถูกใช้มาอย่างต่อเนื่อง แต่ถูกลดทอนไปตามยุคตามสมัย อย่างไรก็ตาม บรรยากาศของเมืองยังทำให้นึกถึงอดีต ความเป็นมา ศาสนาและความผสมผสานของเชื้อชาติได้ดี [/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width=”1/2″][vc_single_image image=”2106″ img_size=”full”][vc_single_image image=”2108″ img_size=”full”][/vc_column][vc_column width=”1/2″][vc_single_image image=”2177″ img_size=”full”][vc_single_image image=”2112″ img_size=”full”][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]
4 วัน 3 คืน ไปไหนมาบ้าง
1 Arrived – IBIS KLCC
2 National Mosque of Malaysia
3 First Railway Station / Headquarters of Train Company
4 The Perdana Botanical Gardens
5 Merdeka Square
6 VCR Cafe
7 Lim Kee Cafe Petaling Street/ Chinatown
8 Lim Kee Cafe
[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]Day 1ทริปนี้เดินทางโดย Air Asia ใช้เวลาราวๆ สองชั่วโมงกว่า ในวันแรกนี้เดินทางมาถึงก็ช่วงบ่ายแล้ว วันนี้เลยตั้งใจจะเดินเล่นถ่ายรูปแถวโรงแรมที่เราพัก ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองมากๆ สามารถเดินไปตึก Petronas Twin Towers ได้เลย ใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น
[/vc_column_text][vc_column_text]IBIS KLCC
[/vc_column_text][vc_single_image image=”2115″ img_size=”full”][vc_column_text]โรงแรมเครือนานาชาตืที่มีสาขาไปทั่วโลก เราคงคุ้นหูกันอยู่แล้วกับชื่อ IBIS ที่หลายคนคิดว่าเป็นโรงแรมขนาดเล็กอย่างเดียว แต่ครั้งนี้เราได้มีโอกาสมาพัก IBIS KLCC เป็นสาขาที่เรียกได้ว่าเป็น Flagship ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิค การยกระดับโรงแรมและบริการ ทำให้ที่นี่เป็นโรงแรมแบบห้าดาวได้เลย มี facility ที่พร้อมมาก ห้องอาหารขนาดใหญ่และวิวสวยสุดๆ นั่งทานอาหารเช้าไปกับวิวของเมืองรอบๆ เราสามารถมองเห็น The Twin Towers ได้จากที่นี่เลย ที่สำคัญที่สุดคือ ห้องพักใหญ่กว่าเดิม มีห้องพักสำหรับครอบครัวด้วยค่ะ ที่ประทับใจว่าเลือกโรงแรมไม่ผิดเพราะสามารถเดินไป Petronas Twin Towers เพียง 15 นาทีเท่านั้น เรียกว่า โลเคชั่นถูกใจนักท่องเที่ยวอย่างเราแน่นอน เพราะว่าในเมืองรถติดมากค่ะ ไม่ได้ต่างจากกรุงเทพเลย ดังนั้นการเดินมาตรงนี้คือสะดวกและประหยัดเวลาที่สุด [/vc_column_text][vc_single_image image=”2116″ img_size=”full”][vc_row_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”2117″ img_size=”full”][/vc_column_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”2118″ img_size=”full”][/vc_column_inner][/vc_row_inner][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_single_image image=”2119″ img_size=”full”][vc_single_image image=”2120″ img_size=”full”][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width=”1/2″][vc_single_image image=”2121″ img_size=”full”][/vc_column][vc_column width=”1/2″][vc_single_image image=”2122″ img_size=”full”][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_single_image image=”2123″ img_size=”full”][vc_column_text]Petronas Towers and Around
เดินเล่นจากโรงแรม มุ่งหน้าไป ตึกแฝดเปโตรนาส (the Petronas Towers) สัญลักษณ์ของเมืองกัวลาลัมเปอร์และประเทศมาเลเซีย เคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกในช่วงปี 1998 ถึง 2004 มีความสูงถึง 451.9 เมตร มีทั้งหมด 88 ชั้น ออกแแบบโดย Cesar Pelli สถาปนิกชาวอเมริกัน – อาเจนติน่า หัวใจหลักของการออกแบบคือ สัญลักษณ์ที่สำคัญของอิสลาม (Rub el Hizb) รวมไปถึงงานศิลปะแบบอิสลาม (Islamic Art) ที่นักออกแบบได้นำมาใช้ในการสร้างสรรค์รายละเอียดต่างๆในตึกสูงแห่งนี้ the Petronas Towers ต้องการแสดงออกถึงความยิ่งใหญ่ของอิสลามในประเทศมาเลเซีย นอกจากตัวอาคารตึกเปโตรนาสเอง ห้างสรรพสินค้าสุดหรูด้านล่างของตึกชื่อว่า Suria KLCC มีร้านอาหารและร้านค้ามากมาย มี Underwater Aquarium และ Science Center ให้เด็กได้มาสนุกกัน ส่วนใครที่อยากจะชมวิวจากมุมสูง สามารถซื้อตั๋วขึ้นไปที่ชั้น 86 เพื่อชมวิวของเมืองหลวงกัวลาลัมเปอร์ได้แบบ 360 องศาเลย นอกจากนี้ ด้านล่างยังมีโชว์น้ำพุ แสง สี เสียงอันตระการตา มีสวนสาธารณะไว้ให้ชาวเมืองได้มาจ็อกกิ้ง พาลูกมานั่งเล่นหรือจะปั่นจักรยานก็ได้ ถ้าไม่รีบ แนะนำให้ใช้เวลาอยู่แถวนี้ตั้งแต่บ่ายจนถึงเย็นได้เลย[/vc_column_text][vc_single_image image=”2263″ img_size=”full”][vc_row_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”2264″ img_size=”full”][/vc_column_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”2265″ img_size=”full”][/vc_column_inner][/vc_row_inner][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]Day 2[/vc_column_text][vc_column_text]
National Mosque of Malaysia
[/vc_column_text][vc_single_image image=”2134″ img_size=”full”][vc_single_image image=”2128″ img_size=”full”][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width=”1/2″][vc_single_image image=”2130″ img_size=”full”][/vc_column][vc_column width=”1/2″][vc_single_image image=”2129″ img_size=”full”][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]
National Mosque of Malaysia (Masjid Negara)
ไม่ว่าเราจะไปเมืองไหน สิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์คงหนีไม่พ้น ศาสนาและความเชื่อ มัสยิดคือสถานที่ทางปฏิบัติศาสนาของชาวมุสลิม วันนี้เราเลยตั้งใจมามัสยิดเนการ่า อยากเห็นความสวยงามของรายละเอียดแบบใกล้ๆ หลังจากที่เราได้แต่งตัวตามกฎระเบียบแล้ว เราจะเข้ามาสู่ระเบียงชั้นนอกของอาคาร มีแสงธรรมชาติสบายๆ นักท่องเที่ยวจะมานั่งเล่นหรือถ่ายรูปตรงบริเวณนี้เยอะเลย ใช้เวลาเดินไปรอบๆอาคาร พื้นที่ไม่ได้ใหญ่มาก อาคารสวดมนต์ด้านในยังคงความโดดเด่นของศิลปะแบบอิสลาม ตรงกลางเป็นโดมร่ม (Umbrella Dome) แบบพับ เป็นการก่อสร้างด้วยคอนกรีต รวมไปถึงการใช้สัญลักษณ์ทางศาสนาเป็นรูปแบบทรงเลขาคณิตในการออกแบบช่องลมด้านนอกได้อย่างสวยงาม ที่นี่คือมัสยิดที่เป็นสัญลักษณ์ของความทันสมัยแต่ยังคงสอดแทรกรายละเอียดของสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมไว้เพื่อให้ความผสมผสานที่ลงตัวนี้เป็นการบ่งบอกถึงการรวมเป็นหนึ่งเดียวของประเทศมาเลเซีย [/vc_column_text][vc_single_image image=”2131″ img_size=”full”][vc_single_image image=”2132″ img_size=”full”][vc_row_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”2133″ img_size=”full”][/vc_column_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”2134″ img_size=”full”][/vc_column_inner][/vc_row_inner][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]
The Kuala Lumpur Railway Station
The Headquarters of Train Company
สถานีรถไฟแห่งแรกของเมืองคือที่นี่ สถานที่ตอนนี้ก็ดูเงียบเหงาแต่มีคนมาถ่ายรูปเล่นเรื่อยๆเพราะความสวย อลังการของ Raj Style ที่สมบูรณ์ เราจะเห็นโดมขนาดใหญ่ที่สวยงาม รายละเอียดของซุ้มประตูอย่าง Horseshoe Arch และ Keyhole Arch ที่เป็นลักษณะพิเศษของสถาปัตยกรรมแบบแขกมัวร์ ในส่วนของฝั่งตรงข้ามคือ The Headquarters of Train Company ตีึกก็ดูสวยไม่แพ้กัน
วันนี้เราไม่สามารถเข้าไปข้างในได้เพราะปิดอยู่ เลยได้โอกาสถ่ายรูปจากด้านนอกแทน อาคารนี้สร้างเสร็จเมื่อปี 1911 ซึ่งสร้างในรูปแบบ Raj Styleเช่นกัน สถานีรถไฟอันเก่าแก่ที่ยังคงรักษาไว้เพราะถือว่าเป็นอาคารมีค่าทางสถาปัตยกรรมเพราะเป็นอาคารที่สมบูรณ์มาก
[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_single_image image=”2138″ img_size=”full”][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width=”1/2″][vc_single_image image=”2136″ img_size=”full”][/vc_column][vc_column width=”1/2″][vc_single_image image=”2137″ img_size=”full”][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]
The Perdana Botanical Gardens
หลังจากที่ฝนตกมาตลอดในช่วงบ่าย เราก็ต้องหาทางมาที่นี่จนได้ สวนสาธารณะที่ใหญ่มากๆ ในนี้มีหลายอย่างให้ทำ ทั้งสวน botanical garden ที่มีเรื่องพันธ์ุไม้ให้ศึกษา นอกจากนั้นเรายังแอบไปเจออาคาร Bamboo Playhouse ที่อยู่ตรงใจกลางของสวนอันเก่าแก่และงดงามนี้ ออกแบบโดย Eleena Jamil Architect พาวิลเลี่ยนสาธารณะที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อคนที่มาพักผ่อน ตัวอาคารทำจากไม้ไผ่ทั้งหมด สามารถปีนป่ายได้สนุก ใครที่มาเที่ยวกับเด็ก แนะนำแวะมาเล่นที่นี่ได้เลยค่ะ หรือใครมีเวลาเหลือ อยากจะหามุมสงบๆ หรือหาเวลาพักผ่อนระหว่างวัน เราแนะนำเลยเพราะมีต้นไม้ใหญ่ มีทางเดินสะดวกมาก มาถ่ายรูปก็คุ้มแล้ว
[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_single_image image=”2143″ img_size=”full”][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width=”1/2″][vc_single_image image=”2144″ img_size=”full”][/vc_column][vc_column width=”1/2″][vc_single_image image=”2145″ img_size=”full”][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_single_image image=”2146″ img_size=”full”][vc_single_image image=”2147″ img_size=”full”][vc_row_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”2148″ img_size=”full”][vc_single_image image=”2150″ img_size=”full”][/vc_column_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”2149″ img_size=”full”][vc_single_image image=”2151″ img_size=”full”][/vc_column_inner][/vc_row_inner][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]Day 3[/vc_column_text][vc_column_text]Merdeka Square
[/vc_column_text][vc_column_text]จตุรัสเมอร์เดกา (Merdeka Square) นักท่องเที่ยวทุกคนที่มากัวลาลัมเปอร์ต้องรู้จักที่นี่ค่ะ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้กับ Chinatown, มัสยิด Jamek มันคือสถานที่ๆทุกคนมาถ่ายรูปและชมงานสถาปัตยกรรมที่สวยงามในช่วงของ British Colonial จตุรัสเมอร์เดกาเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของกัวลาลัมเปอร์ [/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_single_image image=”2152″ img_size=”full”][vc_single_image image=”2153″ img_size=”full”][vc_row_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”2154″ img_size=”full”][vc_single_image image=”2156″ img_size=”full”][/vc_column_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”2155″ img_size=”full”][vc_single_image image=”2157″ img_size=”full”][/vc_column_inner][/vc_row_inner][vc_column_text]เอกลักษณ์ของที่นี่คือลักษณะตัวอาคารที่ยาวและมีความงดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบแขกมัวร์ มีหอนาฬิกาที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันพระราชสมภพของพระราชินีวิคตอเรียแห่งอังกฤษ จึงทำให้เป็นที่มาของฉายา ‘บิ๊กเบนแห่งมาเลเซีย’ นั่นเอง.[/vc_column_text][vc_column_text]
มัสยิด Jamek
Masjid Jamek เป็นหนึ่งในมัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองกัวลาลัมเปอร์ อาคารสร้างเสร็จในปี 1909 และเคยถือว่าเป็นมัสยิดแห่งประเทศมาเลเซียมาอยู่ยาวนาน มัสยิด Jamek อยู่ไใกล้กับ Merdeka Square เป็นจุดบรรจบของแม่น้ำ Gombak และ Klang หากไม่มีเวลาเข้าไป เรายังสามารถมองเห็นจากมุมไกลได้ [/vc_column_text][vc_single_image image=”2266″ img_size=”full”][vc_column_text]
VCR Cafe
VCR Cafe เดินทางไปไม่ยาก ตั้งอยู่ระหว่างทางของ Chinatown และ Bukit Bintang เป็นร้านคาเฟ่ที่มีชื่อเสียงเลยสำหรับคนที่ชอบทาน Brunch มีเมนูอาหารประเภท French Cuisine เช่น Quiche Lorraine หรือ Lemon Tart ร้านนี้ได้มีความตั้งใจจะนำอาหารพื้นบ้านในประเทศมาผสมผสานเพื่อสร้างสรรค์เมนูดีๆให้กับ VCR Cafe อยู่ตลอด บรรยากาศภายในร้านจะเห็นมีทั้งครอบครัว หนุ่มสาว และนักท่องเที่ยว
[/vc_column_text][vc_row_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”2268″ img_size=”full”][vc_single_image image=”2270″ img_size=”full”][/vc_column_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”2269″ img_size=”full”][vc_single_image image=”2271″ img_size=”full”][/vc_column_inner][/vc_row_inner][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]Petaling Street / Chinatown
Petaling Street ถือว่าเป็นย่านที่เก่าแก่ ผู้คนส่วนใหญ่ที่อาศัยและค้าขายในพื้นที่นี้คือประชากรเชื้อสายจีน เราไปเดินเล่นและหาไรทาน ได้โอกาสแวะร้านที่เก่าแก่มากๆ เป็นร้านกาแฟแห่งแรกของเมืองเลย ตอนนี้ร้านดังเรื่องอาหาร คนแน่นร้านเลยค่ะ ในช่วงศตวรรษที่ 16 – 19 หรือช่วงที่มาเลเซียยังอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ สถาปัตยกรรมและงานศิลปะได้รับอิทธิพลหลักๆจากยุโรปที่เราเรียกกันว่า Paddianism Architecture ซึ่งจะเห็นได้บ่อยกับอาคารบ้านพักอาศัยและร้านค้าของคนเชื้อสายจีน ความสวยงามของรายละเอียดประตู หน้าต่าง เสาด้านหน้า บ่งบอกถึงฐานะของครอบครัว ดังนั้นเราจึงเห็นอาคารที่มีกลิ่นไอความเป็นยุโรปอยู่รอบๆ ได้บรรยากาศแบบเมืองย้อนยุค ในส่วนของตลาด Chinatown มีขายของพื้นเมืองต่างๆ ขายอาหารและสินค้าสำหรับนักท่องเที่ยว
[/vc_column_text][vc_single_image image=”2163″ img_size=”full”][vc_single_image image=”2159″ img_size=”full”][vc_single_image image=”2168″ img_size=”full”][vc_single_image image=”2169″ img_size=”full”][vc_row_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”2170″ img_size=”full”][/vc_column_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”2171″ img_size=”full”][/vc_column_inner][/vc_row_inner][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width=”1/2″][vc_single_image image=”2160″ img_size=”full”][vc_single_image image=”2162″ img_size=”full”][/vc_column][vc_column width=”1/2″][vc_single_image image=”2161″ img_size=”full”][vc_single_image image=”2164″ img_size=”full”][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]LIMKEE CAFE
ร้านคาเฟ่ LIMKEE CAFE ตั้งอยู่ในย่านไชน่าทาวน์และเป็นส่วนหนึ่งของ Tian Jing Hotel โรงแรมที่ใช้หลักการออกแบบจากวิถีจีนแบบดั้งเดิมที่เน้นเรื่องแสงธรรมชาติ และทิศทางของลมธรรมชาติ ในส่วนของร้านคาเฟ่ ภายในร้านตกแต่งเแบบทันสมัย โมเดริ์น และให้ความรู้สึกที่เป็นกันเองดีจากโทนสีเทา ขาว และเขียวไข่กาได้แบบอบอุ่น โต๊ะไม้ที่ให้กลิ่นไอของความเป็นจีนเก่าแก่ ลายแพทเทริ์นบนพื้นที่ให้ความรู้สีกชวนสนุก ผ่อนคลายบวกกับกลิ่นกาแฟที่หอมไปทั้งร้าน หากไม่รู้จะแวะพักที่ไหน ลองมาสำรวจบรรยากาศที่นี่และชิมอาหารหรือกาแฟรสชาติดีๆสักแก้ว การแวะเวียนมานั่งคาเฟ่ในต่างเมืองทำให้เราได้เห็นวัยรุ่น วัยทำงานมากขึ้นหรือคนท้องถิ่นแบบยุคใหม่ เพราะส่วนใหญ่เราจะไปตามสถานที่ๆมีแต่นักท่องเที่ยว แม้ร้านนี้จะตั้งอยู่ในพื้นที่ๆออกจะวุ่นวาย ภายในร้านมีความสงบเหมือนมุมแอบพักระหว่างว้นได้เลย [/vc_column_text][vc_row_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”2166″ img_size=”full”][vc_single_image image=”2181″ img_size=”full”][/vc_column_inner][vc_column_inner width=”1/2″][vc_single_image image=”2167″ img_size=”FULL”][vc_single_image image=”2173″ img_size=”full”][/vc_column_inner][vc_column_inner][vc_column_text]