Europe Calling
Trip นี้ถือว่าเป็น honeymoon ของเราสองคนเพราะว่าตั้งแต่แต่งงานก็ยังไม่ได้มีโอกาสไปเที่ยวกันแบบจริงจังซักที Honeymoon Europe Trip แบบกระทัดรัด เราวางแผนเดินทางเที่ยวจะใช้เวลาทั้งหมด 9 วัน เที่ยว 4 ประเทศคือ Switzerland, Italy, Holland, และไปจบลงที่ France
Day 1
เมืองแรกที่มาถึงคือ Zurich, Switzerland เพราะว่าเราสองคนอยากมางาน Sneakerness งานรองเท้าของยุโรปที่มีชื่อเสียงและคิดเสมอว่าถ้ามีโอกาสจะต้องมางานนี้ให้ได้ ในช่วงที่เราแพลนจะมา honeymoon trip นี้ มีงาน Sneakerness ที่ Zurich พอดี ไม่ต้องคิดอะไรมาก มาซิคะ และนี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมต้องมา Zurich
นี่เป็นครั้งแรกที่เดินทางมา Switzerland จึงจำเป็นต้องหาข้อมูลทำความรู้จักกับสวิสนิดหน่อยคะ ซึ่งได้ข้อมูลดีๆจาก pantip และ website ต่างๆ
เริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพตอนตี 1: 40 มุ่งหน้าสู่เมือง Zurich , Switzerland
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมงกว่าๆ ถึงสนามบินตอนเช้า 7 โมงครึ่ง
Street snap by me.
Waiting for the train.
สวิสเป็นเมืองที่ไม่ใหญ่มาก มีพื้นที่ประมาณ 41,200 ตารางกิโลเมตร ทางเหนือมีอณาเขตติดกับเยอรมัน ทางใต้ติดกับอิตาลี ทางตะวันออกติดกับออสเตรีย และ ทางตะวันตกติดกับฝรั่งเศส ไม่มีทางออกติดกับทะเลเลย
เวลาจะช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมง ช่วงนี้อากาศอยู่ที่ประมาณ 8-12 องศาเซลเซียส
ลงเครื่องมา ฝนตกพอดี อากาศเลยหนาวกว่าที่คิดไว้นิดหน่อย แต่ยังไงก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคเพราะว่าตกไม่มาก
เราไม่ได้ไป check in ที่โรงแรม เพราะว่าเราตั้งใจจะไปนอนคืนแรกในสวิสที่เมือง Interlaken เมืองเล็กๆ ที่สวยมาก ใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมงในการเดินทางจาก Zurich เหตุผลที่เราไปเลือกไปเมืองนี้เพราะว่าพี่ติ่ง (พี่สาวพี่บอล) ทำงานอยู่ที่เมืองนี้คะ และพี่เขาได้ลงรูปสวยๆของเมืองนี้ผ่านทาง IG เสมอๆ ซึ่งมันสวยมากและน่าเที่ยวมาก เราเลยตั้งใจจะไปนอนที่ Interlaken ตั้งแต่คืนแรก เพราะเรามีเวลาอยู่ที่สวิสแค่ 3 วัน
Cityscape of Zurich.
Photo by @ballisticone
Inside Titolo Shop.
หลังจากที่จัดการเก็บกระเป๋าไว้ที่ตู้ฝากเรียบร้อย เรามุ่งหน้าไปที่ร้าน Titolo ร้าน Sneaker ชื่อดังของเมือง ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีในการเดินมาจาก Train Station Zurich HBเราไปถึงประมาณก่อน 10 โมงเช้า ซึ่งพี่ติ่งก็มาถึงแล้ว วันนี้เป็นวันที่ Adidas NMD R_1 จึงมีคนมาคิวอยู่หน้าร้านพอประมาณ เราจึงต้องไปยืนต่อแถวอยู่ประมาณ 20 นาทีถึงได้เข้าไปในร้านได้
หลังจากนั้นก็ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงในการเดินชมเมือง (city center) ถนน shopping ชื่อดังอย่าง Bahnhofstrasse ที่ติดกับแม่น้ำ Limmat เดินไปเรื่อยๆ จนถึง Lindenhof ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งของโบสถ์ชื่อดัง Fraumünster และ จตุรัส Münsterhof
การเดินเล่นในใจกลางเมืองไม่ได้จุดหมายอะไรเป็นพิเศษ นอกจากการชมเมือง สังเกตุผู้คน งานสถาปัตยกรรม และถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ
หลังจากนั้นก็มุ่งหน้าสู่งาน Sneakerness
นั่งรถไฟไปแค่ 1 stop จาก Train Station Zurich HB
(ลงสถานี Zurich Hardbrucke )
Overlooking Limat River.
Sneakerness at Zurich 2016
งานนี้เป็นงานรองเท้าอีกหนึ่งงานที่คิดไว้ว่าจะต้องไปให้ได้ เหตุผลก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า อยากไปเห็นงานจริงๆ หลังจากที่เห็นเมืองนอกเขาพูดถึงกันมานาน อยากไปสัมผัสบรรยากาศตรงนั้น และดูรองเท้ามากมายมาอยู่รวมกัน คงมีความสุขไม่น้อย เมื่อมาถึงงาน ทุกอย่างก็ดูเป็นไปตามความคาดหมายคือ ผู้คนที่ชื่นชอบรองเท้าหรือ เหล่า sneakerhead มารวมตัวกันมากมาย และที่สำคัญคือ เขามากันจากทุกมุมเมืองในยุโรป และร้านรองเท้าจากเมืองอื่นของยุโรปก็มาออกร้านกันด้วย งานนี้ไม่ได้ใหญ่อลังการไรมากมาย แต่อบอุ่นและผู้คนดูเป็นกันเอง รองเท้าไม่ต้องพูดถึง เยอะ และเพลินมาก งานนี้ก็เหมือนงาน event ทุกงานที่มีเพลง มีเบียร์ มีอาหาร เรียกว่าดีใจมากที่ได้มา
ถ้าอยากรู้อะไรเจาะลึกเกี่ยวกับงานนี้ ไปอ่านตามของ Sneakthestreet ได้
ใช้เวลาอยู่ที่งานร่วม 3 ชั่วโมงก็หมดเวลา เพราะต้องออกเดินทางไปเมือง Interlaken กันต่อ ระหว่างทางเดินจากสถานที่จัดงานไปยังสถานีรถไฟ เราแอบเห็นร้านเฟอร์นิเจอร์ของเก่า Bogen 33 ซึ่งไม่เคยรู้จักก่อน แต่ดูจากภายนอก มันน่าจะมีอะไรดีๆแน่ๆ และมันก็มีจริงๆคะ ใครที่หลงรัก Scandinavian Design อย่าพลาดนะคะ เสียดายที่มีเวลาน้อย เลยเดินชื่นชมได้พอหอมปากหอมคอ เดินเลยจากร้าน Bogen 33 ก็จะเจอร้าน Freitag ที่ถูกสร้างจาก container มาเรียงต่อกันจนสูงมาก สามารถเดินขึ้นไปชมวิวจากด้านบนสุดได้
Inside Freitag.
#sasivadeejourneymemo
Photos were taken by:
Digital Camera: Fujifilm xt10
Visit my official website: www.sasivadee.com
FB PAGE: https://goo.gl/kY1ZBw
See what’s up with me at my IG: sasivadee
Link: https://goo.gl/xtodz6